รีวิวเที่ยวทะเลสาบแปะก๊วย, ทะเลหมอก, สวนสนลอยฟ้า, สะพานแสงไฟ

ตื่นแต่เช้ามาถ่ายวิวพระอาทิตย์ขึ้นแถวที่พัก เนื่องจากเมืองที่อยู่เป็นเมืองในหุบเขาเลยไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นดวงๆ จะเห็นแสงอาทิตย์สว่างพร้อมกับแนวต้นสนและทิวเขา ดูสวยไปอีกแบบนึง

พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากับทิวต้นสน

จากนั้นก็หาอะไรรองท้องมื้อเช้าที่ 7-11 แล้วขับรถไปดูใบแป๊ะก๊วยที่ทะเลสาบ ระหว่างทางขับขึ้นเขาลัดเลาะไปเรื่อยๆ วิวสวยมาก ที่สำคัญพอขึ้นสูงไปเรื่อยๆเห็นทะเลหมอกลอย ที่เกาหลีภูเขาจะสลับซับซ้อนทำให้มองเห็นยอดเขาที่มีใบไม้เปลี่ยนสีโผล่พ้นทะเลหมอกขึ้นมา สวยจริงๆ

พอขับไปเรื่อยๆก็เจอแปลงผัก น่าจะเป็นผักกาดที่ชาวเกาหลีนิยมเอามาทำกิมจิ เป็นแปลงผักที่วิวด้านหลังเป็นเทือกเขาทะเลหมอก จอดรถแวะลงไปเก็บภาพสวยๆกันต่ออีก เจออาจุมม่า(คุณป้า)กำลังนั่งทำกิมจิอยู่ มีพี่คนไทยอยู่ที่บ้านด้วย พี่แกบอกว่ามาทำงานเก็บผักที่เกาหลีช่วงหน้าหนาว ตอนเดินมาขึ้นรถก็เห็นคนไทยหลายคนเหมือนกันกำลังเก็บพริกสดอยู่

ทะเลหมอกยามเช้าบนยอดเขา

สองต้นนี้เหลืองอร่ามๆจริงๆ กำลังพีคเลย

แปลงผักกาดกับวิวเขาสวยๆ

ขับรถต่อมาอีกซักพักก็มาถึงทะเลสาบแล้ว เป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำเล็กๆที่อยู่ริมถนน วันที่ไปถึงรู้สึกจะมีการจัดงานกัน หาที่จอดรถเกือบไม่ได้ ทะเลสาบนี้อยู่กลางหุบเขามีถนนเส้นเล็กๆอยู่รอบทะเลสาบและมีต้นแป๊ะก๊วยขึ้นเรียงรายยาวตลอดทาง เป็นอุโมงค์ทางเดินที่สวยมากอีกจุดหนึ่งของการดูใบไม้เปลี่ยนสีไม่แพ้ที่เกาะนามิเลย แต่จุดไฮไลท์คือมุมที่ถ่ายรูปต้นแป๊ะก๊วยและภูเขาสะท้อนกับน้ำในทะเลสาบ ถ้าช่วงไหนที่ไม่มีลมแล้วน้ำนิ่งมากๆจะเหมือนกับกระจกสะท้อนเป็นแนวต้นไม้สีเหลืองเลย ช่วงที่เริ่มหนาวนี้น้ำในทะเลสาบจะเริ่มแห้ง บางจุดเป็นดินแข็งๆเดินเข้าไปได้ แต่บางจุดก็เป็นดินโคลน ถ้าเดินไม่ดีก็ระวังรองเท้าจะเละเอาได้ ให้เดินลงไปช่วงกลางๆทะเลสาบ จะมีมุมที่เป็นภูเขาสีเขียวตัดกับสีเหลืองทองของแนวต้นแปะก๊วยสะท้อนกับผิวน้ำนิ่งๆ ถ้ามาแต่เช้าที่พระอาทิตย์ขึ้นใหม่ๆอาจจะได้เห็นหมอกบางๆลอยเหนือน้ำ แต่ตอนนี้ที่นี้ประมาณ 9 โมงได้ หมอกน่าจะจางไปหมดแล้ว

แนวต้นแปะก๊วยสีเหลือง เปลี่ยนสีพีคสุดๆ

ต้นแปะก๊วยและภูเขาสะท้อนกับผิวน้ำ

ในทะเลสาบมีแพลอยอยู่

แมงมุมขักใยอยู่บนดินโคลนในทะเลสาบ

น้ำเริ่มนิ่ง เห็นเงาสะท้อนชัดเจน

เห็นเขาภูเขาสะท้อนชัดมากๆ

คุณพ่อพาลูกๆมาเดินเล่น

ก่อนจะเดินกลับไปทางอุโมงค์ต้นแปะก๊วย

บางต้นกิ่งก็ย้อยลงมาต่ำ

อุโมงค์ต้นแปะก๊วย ตรงนี้คนจะเยอะมาก แต่ก็พอมีช่วงให้ถ่ายรูปได้

บางต้นใบเริ่มร่วงแล้ว ใบก็ร่วงลงพื้นเหมือนพรมสีเหลืองปูไปตามทางเดิน

หลังจากเที่ยวที่ทะเลสาบเสร็จกับขับรถต่อกันมาเรื่อยๆ แพลนว่าจะเที่ยวต่อที่วัด Beopjusa Temple แต่รถติดมากตั้งแต่ยังไม่ถึงปากทางเข้าวัดเลย น่าจะเป็นเพราะวันที่ไปเป็นวันเสาร์ คนเกาหลีก็ไปเที่ยวกันเยอะมาก เลยตัดสินใจไม่เข้าไปเที่ยวแล้วก็ข้ามไปที่ต่อไปแทน แอบแวะสวนแอปเปิ้ลระหว่างทาง ลูกใหม่หวานกรอบอร่อย

ทุ่งนาสีทองระหว่างทางขับรถ

สวนแอปเปิ้ลข้างทาง

สดๆจากต้นเลย ลูกใหญ่ หวานกรอป

คุณลุงเขาจะแพ็คไว้เป็นกล่องๆ ขายกันยกกล่องเลย แต่ขอซื้อนิดหน่อยเขาก็ขาย

มาถึงแล้วสวนสนลอยฟ้า Jangtaesan Recreational Forest อยู่ที่เมืองแทจอน (Daejeon) เป็นเหมือนสวนพฤกษศาสตร์ที่มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ แต่จะมีโซนนึงที่เป็นลานต้นสนสูงใหญ่ มีสะพานที่เป็นทางเดินสูงจากพื้น สามารถขึ้นไปเดินบนสะพานผ่านไปตามแนวต้นสนได้ สูงจากพื้นพอสมควรแต่ไม่น่ากลัวเพราะทางเดินค่อนข้างกว้าง เดินเข้าไปเรื่อยๆจะเจอหอคอยดูวิว เป็นทางเดินวนๆขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงยอด เห็นวิวรอบด้าน ตรงจุดนี้เด็กๆจะชอบมากวิ่งวนกันสนุกสนาน

ทางเดินบนต้นสน

มุมกว้างๆบ้าง

ดูจากเสาทางเดินแล้วก็สูงพอควร

หอคอยชมวิว

เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางป่าสน

ใกล้ๆกับทางเดินบนต้นสน มีทางเดินขึ้นเขาไปชมวิว

พ้นจากบันไดแล้วทางก็โหดพอสมควร จับเชือกปีนขึ้นไป

ลงมาจากเขาก็เจอลานต้นสน ตรงนี้มีเก้าอี้ม้านั่ง สามารถนอนดูต้นสนได้

วิวบนแบบนี้สวยดีเหมือนกัน

ทางเดินใบเมเปิ้ลกับแนวต้นสน

ร้านขนมระหว่างทาง

มุมด้านล่างที่มองขึ้นไปบนทางเดินต้นสน

เดินที่สวนจนเย็น แล้วก็กลับไปเช็คอินที่โรงแรม แต่โปรแกรมวันนี้ยังไม่จบ คืนนี้จะไปดูแสงไฟที่สะพาน Daejeon EXPO bridge เป็นสะพานแขวนคู่ความยาวประมาณ 100 เมตร สร้างขึ้นเนื่องจากงาน Daejeon Expo ’93 ไม่อนุญาตให้รถวิ่งแต่ให้จักรยานและคนข้ามได้เท่านั้น ตอนกลางคืนมีการเปิดไฟ ลายบนสะพานก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแสงไฟที่วิ่ง

มองเห็นทั้งแสงไฟจากตึกและจากสะพาน

สะพานแขวนคู่สีแดงและน้ำเงิน

เดินเล่นบนสะพานกันบ้าง

ก่อนกลับแวะซื้อขนมกินตรงสุดทางสะพาน