28 ที่เที่ยวโซล ห้ามพลาด เมืองหลวงของเกาหลีใต้ อัพเดทล่าสุด
โซล Seoul นับเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไม่ขาดสาย นั่นก็เพราะแม้จะเป็นเมืองใหญ่สุดแสนจะทันมัยก็จริง หากก็ยังแหล่งท่องเที่ยวทั้งแนววัฒนธรรม ธรรมชาติ ที่สำคัญแหล่งช็ฮปปิ้งเริ่ดๆเยอะมากๆ แล้วแบบนี้ใครๆจะไม่รักโซลได้ยังไงล่ะคะครบเครื่องซะขนาดนี้ แต่ละแห่งจะดีงามขนาดไหนตามมาดูกันให้ไวเลยค่า กับ 28 ที่เที่ยวห้ามพลาด โซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ อัพเดทล่าสุด 2024
1. Starfield Library Suwon
Starfield Library Suwon เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในเมืองซูวอน ของเกาหลี ที่บอกเลยว่าหนอนหนังสือต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ สวยอลังการ ตั้งอยู่ในห้าง สตาร์ฟิลด์ โคเอ็กซ์มอลล์ ถูกออกแบบมาได้เก๋อย่างมีสไตล์ โดดเด่นด้วยชั้นหนังสือสูง 13 เมตร ที่เต็มไปด้วยหนังสืออัดแน่นมากมาย นานาชนิด มีหนังสือให้เลือกสรรกับครบทุกประเภท แน่นอน ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อเป็นห้องสมุดแต่ที่นี่เป็นร้านขายหนังสือขนาดใหญ่และโด่งดังมากในเกาหลี รวมหนังสือคอลเลคชั่นต่างๆไว้มากกว่า 70,000 เล่ม นอกจากนี้ทางร้านหนังสือยังมีการจัดกิจกรรมหมุนเวียนมาให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรม การอ่านบทการกวี การพูดคุยหรือการบรรยายของเหล่านักเขียน รวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตวรรณกรรม ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ควรค่าแก่การมาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก พิกัดที่ บริเวณชั้น B1 ของห้างางสตาร์ฟิลด์ โคเอ็กซ์มอลล์
2. โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ N Seoul Tower
โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองโซล เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1980 ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซัง สูง 236 เมตร ให้วิวเมืองโซลและบริเวณรอบๆแบบ พาโนราม่า นับว่าเป็นหนึ่งในทาวเวอร์ที่ให้วิวสวยที่สุดในเอเชีย
3. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก Bukchon Hanok Village
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) หรือบางคนเรียกว่า หมู่บ้านบุคชอนฮันอ๊ก เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกาหลี ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัยของกรุงโซลนั้น หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังคงรักษาอาคารบ้านเรือนในสมัยโบราณ มีกลิ่นอายของเกาหลีในยุคเก่าแก่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
4. คลองชองกเยชอน Cheonggyecheon Stream
คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คลองชองเกชอน หรือ ชองเคยอน เป็นคลองที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณตั้งแต่ยุคของราชวงศ์โชชอน มีอายุมากกว่า 600 ปี ความยาวประมาณ 11 กิโลเมตร ไหลผ่านกลางกรุงโซล เดิมที่นั้นน้ำในคลองจะคล้ายกับคลองแสนแสบที่บ้านเรา คือมีน้ำเสียและขยะถูกทิ้งลงคลองจากบ้านเรือนและชุมชนที่มาอาศัยอยู่ริมคลอง และยังมีสะพานยกระดับพาดผ่านอยู่ด้านบนอีกด้วย
5. Songdo Central Park
Songdo Central Park จัดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ และมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในย่านธุรกิจนี้ โดยภายในสวนสาธารณะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จะแบ่งออกเป็นโซนๆ จัดแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางน้ำ อย่างการพายเรือแคนู พายเรือคายัค เช่าเรือล่องแม่น้ำ เป็นต้น สำหรับใครสายชิล ก็มีโซนสวนทุ่งหญ้าที่มาพร้อมกับทัศนียภาพอันสวยงาม ให้เราได้เดินเล่นผ่อนคลายกันแบบเพลินๆ เป็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจีสร้างความสดชื่นได้ดีเลยทีเดียว สำหรับใครที่มีเด็กเล็ก สวนสาธารณะแห่งนี้ก็มีโซนสัตว์เลี้ยง เช่นเลี้ยงกระต่าย เลี้ยงกวาง หรือโซนคาเฟ่ และร้านอาหารก็มีพร้อมให้บริการครบครัน อีกทั้งยังมีหมู่บ้านเกาหลีโบราณให้เราได้ศึกษาวัฒนธรรมที่หลากหลายอีกด้วย จึงจัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เหมาะแก่การพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนกันในวันหยุดเป็นอย่างมาก เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
6. ย่านช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองดง Myeong-dong
ย่านช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นย่านช้อปปิ้งที่ฮิตและคักคักที่สุดของกรุงโซล ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก นับว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมเลยทีเดียว ภายในตลาดเมียงดงเต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวและนักช้อป
7. พระราชวังคย็องบก (Gyeongbokgung Palace)
พระราชวังคย็องบก (Gyeongbokgung Palace) หนึ่งในแลนด์มาร์กสุดฮิตของกรุงโซล ที่สำคัญยังเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่มากที่วุดของเกาหลีใต้เชียวนะคะ ตัวสถาปัตยกรรมว่าคลาสสิกแล้วบวกกับด้านหลังเป็นภูเขาดีขึ้นไปได้อีก แล้วถ้าชมตัวอาคารยังไม่พอสามารถไปชมข้าวของเครื่องใช้และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างจริงจังได้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (National Folk Museum) ที่ตั้งภายในพระราชวังแห่งนี้ได้อีกค่ะ แต่ถ้าอยากอินประหนึ่งคนเกาหลีก็สามารถหาเช่าชุดฮันบกงามๆจากร้านเช่าในละแวกนี้มาใส่เก๋ๆชิคๆได้ด้วยนะคะ บอกเลยราคาไม่แพงแถมมีให้เลือกเยอะ ถ่ายรูปออกมานี่ฟินขึ้นสุดทีเดียวเชียวค่ะ
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ทางออก 5 หรือรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงที่สถานี Gwanghwamun Station ทางออก 2
8. ถนนสายโรแมนติคถ็อกซูกุง – Deoksugung Doldam-gil
ถนนสายโรแมนติคถ็อกซูกุง (Deoksugung Doldam-gil หรือ Deoksugung Stone-wall Road) มีระยะทางยาว 900 เมตร เป็นผนังหินของพระราชวังท็อกซูกุง(Deoksugung Palace) เดิมเคยเป็นผนังหินแห่งแรกในเกาหลีที่สร้างให้ครอบคลุมพื้นที่ที่อยู่อาศัยของผู้คนกับสิ่งแวดล้อมไว้ร่วมกันอย่างลงตัว ระหว่างทางเต็มไปด้วยต้นไม้กว่า 130 ต้น และมีม้านั่งอีก 20 ที่ บรรยากาศที่ร่มรื่นและโรแมนติกเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณเดือน พฤศจิกายน ใบแปะก๊วยจะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง ยาวตลอดแนวกำแพง ทำให้เป็นหนึ่งในถนนเส้นที่มีเสน่ห์ที่สุดเขาโซล
9. Oil Tank Culture Park
Oil Tank Culture Park จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโซล ที่ได้มีการรีโนเวทถังน้ำมันจำนวน 6 ถังที่มีอายุเก่าแก่ราวกว่า 40 ปี มาจัดเป็น Art Space แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงโซล ที่ปรับเปลี่ยนมาให้เป็นอาคารสีเขียว G-SEED (Green Standard for Energy and Environmental Design) เรือนกระจก โดยพื้นที่แห่งนี้ จัดเป็นพื้นที่ในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนจากเครื่องปั๊มพลังงานความร้อนใต้พื้นดิน มาเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิทั้งร้อนและเย็น ให้เหมาะสมตามแต่ฤดูกาล เป็นการใช้ประโยชน์จากพลังงานที่มีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่ามากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ เป็นการแทนที่น้ำมันด้วยวัฒนธรรม เสียงดนตรี และศิลปะได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยถังน้ำมันแต่ละแทงค์นั้น จะมีการจัดเป็นโซนต่างๆ ที่มาบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ พร้อมกับจัดนิทรรศการ และมีห้องประชุมไว้ให้บริการอีกด้วย เป็นสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขา Maebongsan ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลย เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10:00-18:00 น.
10. Hongje-dong Gaemi Village
Hongje-dong Gaemi Village สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในกรุงโซล เราขอแนะนำ หมู่บ้านจิตรกรรมนี้เลย เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยตรอก ซอก ซอย ให้เราเดินเล่นชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ของคนในพื้นที่ กันได้แบบเพลินๆเลย ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ผสมผสานกับทัศนียภาพที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้งดงามและสมบูรณ์แบบจริงๆ โดดเด่นไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่ถูกวาดโดยนักเรียน มีความหลากหลายโทน หลายอารมณ์ ไว้ให้เราได้เก็บภาพความประทับใจมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หมู่บ้านนี้มีเสน่ห์ และน่าหลงใหลอย่างมาก โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบในงานศิลปะ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดกับที่หมู่บ้านแห่งนี้เลย ตั้งอยู่บนเนินเขา Inwangsan รายล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ ถือเป็นแหล่งอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในกรุงโซลเลยก็ว่าได้
11. สกาย บริดจ์ ล็อตเต้ เวิร์ล ทาวเวอร์ (Sky Bridge Lotte World Tower) – โซล
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของโซล Lotte World Tower ที่เปิดมุมมองที่ปังเกินต้าน อยากมาชมวิวเมืองแบบอลังการงานสร้างมาที่นี่ไม่มีผิดหวัง แถมอยากมาสายเสียวต้องจัดกับ Sky Bridge Tour บอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หาที่อื่นได้ยากอย่างแน่นอน
12. U.S. Army home สวนสาธารณะยงซาน (Yongsan Park) – โซล
ใครว่ามาโซลมีแต่ตึก ๆ บอกเลยว่ามา “สวนสาธารณะยงซาน” นี่แหล่ะเหมือนได้เจอพื้นที่สีเขียวที่หาได้ยากในเมืองหลวงแห่งนี้ ตอนนี้ได้มาการเปิดพื้นที่ใหม่ ชื่อว่า “U.S. Army home” โดยบริเวณนี้จะเป็นตึกสีน้ำตาลส้มตั้งเรียงรายกันอยู่ มีป้ายต่างๆบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ บรรยากาศต่างๆเรียกได้ว่าเหมือนได้เดินเที่ยวอยู่ที่อเมริกาเลยค่ะ นอกจากบริเวณนี้แล้วที่นี่ก็ยังมีพื้นที่สวนที่กว้างมากและแบ่งเป็นโซนต่างๆ ให้ครอบครัวได้มาทำกิจกรรมยามว่างกันแบบคูล ๆ เรียกได้ว่าเป็นปอดแห่งโซลที่อยากแวะพักเมื่อก็แวะมารับรองว่าฟินไม่แพ้นอกเมืองเลยทีเดียว
13. หมู่บ้านนัมซานกลฮันอก (Namsangol Hanok Village)
หมู่บ้านที่จะแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเกาหลีแบบโบราณดั้งเดิมอย่างเต็มๆ เข้าเข้ามาปั๊บอย่างกับหลุดเข้ามายังหนังย้อนยุคเลยล่ะค่ะ บรรยากาศ บ้านเรือนต่างๆมันให้มากจริงๆ แถมบางช่วงเค้ายังมีการจัดแสดงการแต่งงานแบบเกาหลีแท้ๆให้ชมกันด้วยนะคะ อีกทั้งยังจะมีร้านขายของที่ระลึกสินค้าท้องถิ่นให้ได้ช็อปกันเบาๆ เรียกได้ว่าเพลินกันไปยาวๆ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 หรือ 4 ลงสถานี Chungmuro Station ทางออก 3 หรือ 4
14. สวนสนุกลอตเต้เวิล์ด Lotte World Adventure
สวนสนุกลอตเต้เวิล์ด(Lotte World Adventure) เป็นหนึ่งในสวนสนุกที่ดังที่สุดของเกาหลี ซึ่งมีอาคารสวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญที่สุดในโลกอยู่ด้วย การมาเที่ยวเล่นที่นี่จึงสามารถทำได้ทั้งปีโดยไม่ต้องดูสภาพอากาศกันเลย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่รวบรวมความบันเทิงและการชมวิวทิวทัศน์ ภายในมีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้น ลานไอซ์สเก็ต ทะเลสาบ พิพิธภัณท์หมู่บ้านโบราณเกาหลี(Traditional Folk Museum) ขบวนพาเหรดรูปแบบต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเกาหลีและชาวต่างชาติมาเข้าชมกว่า 6 ล้านคนต่อปี
15. เอเวอร์แลนด์ (Everland)
สวนสนุกยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างของเกาหลีใต้ที่ไม่อยากให้พลาดเด็ดๆ เครื่องเล่นเค้ามีหลายอย่างนะคะตั้งแต่เบาๆยันหวาดเสียวนี่ก็มี พื้นที่กว้างขวางเดินกันมันส์ไปเลย แถมยังจะมีโซนสวนสัตว์นานาพันธุ์ให้ได้ดูเจ้าสัตว์กันอย่างใกล้ชิดด้วยล่ะค่ะ
การเดินทาง
นั่งรถไฟสาย Yongin Ever Line ลงสถานี Jeondae-Everland Station ทางออก 3
16. ตลาดนัมแดมุน Namdaemun Market
ตลาดนัมแดมุน(Namdaemun Market) เปิดในปี 1964 เป็นตลาดดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดจำหน่ายทั้งแบบขายส่งขายปลีก สินค้าส่วนใหญ่ผลิตจากเจ้าของร้านโดยตรง เช่น เสื้อผ้า หมวก อุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องเขิน แก้วน้ำ ของเล่น อุปกรณ์ตกปลา อุปกรณ์ปีนเขา อุปกรณ์เล่นสกี เครื่องเขียน เครื่องประดับ ของที่ระลึก พรม ดอกไม้ อาหาร โสม สินค้านำเข้าและอื่นๆอีกมากมาย ตลาดแห่งนี้คือแหล่งวัตถุดิบชั้นยอดที่เปิดให้บริการยันมืดค่ำเที่ยงคืนเลยทีเดียว ถ้าหากเราเดินทางมาเองก็มาด้วย MRT สายสีฟ้าแล้วมาลงที่สถานนี Hoehyeon ประตูทางออกที่ 5 ก็มาถึงได้ง่ายๆแล้ว
17. สวนป่ากรุงโซล (Seoul Forest)
อยากเที่ยวป่ากลางกรุงโซลที่นี่เค้าจัดให้ได้ค่ะ โดยจะเป็นสวนสาธรณที่ร่มรื่นแทบจะทุกอณูมีต้นไม้ใบหญ้าให้เห็นอย่างละลานตา มาที่เดียวชมได้มากถึง 5 สวน นั่นก็คือ สวนศิลปะวัฒนธรรม (Cultural Art Park) สวนนิเวศวิทยา (Ecological Forest) สวนศึกษาธรรมชาติ (Nature Experiencing Study Field) พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ (Wetlands Ecological Field) และ สวนริมแม่น้ำฮันกัง (Hangang River Waterside Park) ช่วงที่มาแล้วสวยพีคสุดก็ต้องฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงนี่แหล่ะค่ะ บอกเลยว่าฮอตฮิตแบบสุดๆ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย Bundang Line ลงที่สถานี Seoul Forest Station ทางออก 3 หรือรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Ttukseom Station ทางออก 8
18. ย่านช้อปปิ้ง อินซาดง(Insa-dong)
ย่านอินซาดง(Insa-dong) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นย่านเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองโซล ประกอบด้วยถนนหลักอินซาดงและมีตรอกซอกซอยแยกออกไปทั้งสองข้างทาง ภายในตรอกเป็นร้านอาหารแบบดั้งเดิม โรงน้ำชา ร้านกาแฟ แกลลอรี่สวยๆ และห้างเก๋ๆ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Hongik University Station ทางออก 9
19. วัดบงอึนซา – Bongeunsa Temple (Seoul)
วัดบงอึนซา – Bongeunsa Temple เดิมชื่อว่าวัดกยอนซองซา(Gyeonseongsa Temple) ถูกสร้างขึ้นในปี 794 ในราชวงศ์ชิลลา กษัตริย์วองซอง (Weongseong) จากนั้นในปี 1498 สมเด็จพระราชินี Jeonghyeon ได้มีการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดบงอึนซา
20. อุทยานแห่งชาติพูกันซาน (Bukhansan National Park)
แหล่งท่องเที่ยวที่สายธรรมชาติจะต้องหลงรัก ใครจะรู้ว่าอยู่ในโซลก็เดินป่าชมนมไม้ได้นะเออ แถมยไม่ได้มีแค่ป่าไม้ ใบหญ้า เทือกเขา ยอดเขาเท่านั้น ภายในนี้เค้ายังมีจุดแวะแนวประวัติศาสตร์อย่างวัดรวมไปถึงกำแพงให้ได้แวะชมอีกต่างหาก เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งธรรมชาติแน่นและวัฒนธรรมงามๆในที่เดียว
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดิน สาย 4 ลงที่สถานี Gireum Station ทางออก 3 หรือนั่งรถบัส สาย 110B หรือ 143 ลงที่ป้ายสุดท้าย
21. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี (National Museum of Korea)
พิพิธภัณฑ์ที่จะทำให้คุณรู้จักเกาหลีใต้ในมุมมองต่างๆมากกว่าที่เคย แถมยังยึดตำแหน่งพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีด้วย บ่งบอกเลยว่าภายในนี้เค้าจะมีอะไรให้เราดูเยอะมากแน่ๆ ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมทุกสิ่งเกี่ยวกับเกาหลีใต้และงานศิลปะจากศิลปินเกาหลีชื่อดังมากกว่า 11,000 ชิ้น มาจัดแสดงได้อย่างดีงามเลยล่ะค่ะ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี สถานี Ichon Station ทางออก 2
22. ตลาดนัดฮงแด (Hongdae Market)
ตลาดนัดสไตล์วัยรุ่นที่แท้ทรู เอาง่ายๆขนาดคนขายหรือคนเดินส่วนมากก็นักศึกษาแทบจะทั้งนั้นอ่ะค่ะ ดังนั้นเรื่องราคาของทั้งร้านแบกะดิน ร้านอาหาร และคาเฟ่นี่ราคาจะไม่แรงมาก แถมของสินค้าแนวแฮนด์เมดเก๋ๆทำกันให้เห็นเรียลๆก็เพียบ ใครชอบแนวเต้น Cover หรือ ร้องเพลง แถวนี้เค้าก็มีกลุ่มวัยรุ่นมาแสดงความสามารถพิเศษโชว์กันอย่างเยอะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราจะสัมผัสได้ถึงความเคป๊อบและเทรนด์ฮิตชิคๆของวัยรุ่นเกาหลีช่วงนี้ได้จริงจังเชียวค่ะ ทั้งเพลินตา เพลินใจ และยังไม่โหดร้ายกับกระเป๋าตังค์มาก
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Hongik University Station ทางออก 9
23. สวนยออีโด (Yeouido Park)
สวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่นร่มเย็นกลางเมืองยอดนิยม มีทั้งบริเวณให้เดินเล่นหรือจะเป็นศษลาสไตล์โบราณให้นั่งชิลก็มีนะคะ โดยเฉพาะบริเวณ Yunjunro Street ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่สวยสุดเลยค่ะ เพราะสองข้างทางจะเรียงรางไปด้วยต้นซากุระจำนวนมาก จนกลายเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งนึงของโซลเลยก็ว่าได้ค่ะ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Yeouinaru Station ทางออก 1 หรือรถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานี National Assembly Station ทางออก 2-3
24. ตลาดจุงบุ (Jungbu Market)
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Euljiro 4(sa)-ga Station ทางออก 6 หรือ 7
25. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)
ตลาดเก่าแก่ที่อยู่อยู่โซลมาอย่างยาวนาน บอกเลยว่าถ้าอยากมาหาอาหารพื้นเมืองเด็ดๆที่นี่เด็ดมากขอบอก ร้านค้า ร้านอาหารเรียงรายกันสองฝั่ง ของกินเยอะ อร่อย และราคาไม่แพงนะคะ แถมยังจะมีร้านของฝากให้ได้ช็อปปิ้งซื้อไปฝากคนทางบ้านอีก เรียกได้ว่าทั้งอิ่ม อร่อย ของช็อปก็มี ราคาก็ดีงาม
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงที่สถานี Hoehyeon Station ทางออก 5
26. ถนนช้อปปิ้งตลาดอีแทวอน Itaewon Street
เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังทั้งของคนเกาหลีและนักท่องเที่ยว เป็นย่านแรกของเกาหลีที่ถูกประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว อารมณ์จะคล้ายๆกับถนนข้าวสารของบ้านเรา แต่จะกินบริเวณใหญ่กว่ามาก
วิธีการเดินทาง
ลงรถไฟที่สถานี Itaewon Station ก็ถึงเลย
27. ลอตเต้เวิล์ดทาวเวอร์ (Lotte World Tower)
ลอตเต้เวิล์ดทาวเวอร์นับได้ว่าเป็นจุดชมวิวกรุงโซลมุมสูงที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ เนื่องจากว่าตัวตึกนั้นมีขนาดสูงที่สุดในเกาหลีใต้และติดอันต้นๆของโลกด้วยนะคะ แถมยังจะมีคาเฟ่เก๋ๆ ร้านอาหารบรรยากาศเริ่ดๆให้นั่งกินไปชมวิวไปเพลินๆยาวๆอีกด้วยล่ะค่ะ
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Jamsil Station ทางออก 1 หรือ 2 หรือรถไฟใต้ดินสาย 8 ลงสถานี Jamsil Station ทางออก 10 หรือ 11
28. สวนสาธารณะ นันจิ ฮันแก็ง (Nanji Hangang Park)
สวนสาธารณะริมแม่ฮันบรรยากาศดีๆกิจกรรมเพียบ เรียกได้ว่าจะมาเดินเล่น ปั่นจักรยานรับลมเย็นๆผ่อนคลายอารมณ์ก็ดี หรือจะมาทำกิจกรรมชมนั่นนี่โน่นก็ยังไหว ช่วงเย็นๆก็จะมีคนมาเล่นดนตรีร้องเพลงให้ฟังกันฟินๆ เริ่มค่ำขึ้นมานิดนึงก็ยังสามารถดูแสงไฟสวยๆบริเวณสะพานใกล้ๆได้อีกต่างหาก
การเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 6 ลงที่สถานี World Cup Stadium Station ทางออก 1
รวมที่เที่ยวอื่นๆ