รวบข้อมูล Korea Rail Pass และ รถไฟความสูงเกาหลี KTX
Korea Express Train หรือ KTX คือระบบรถไฟความเร็วสูงของประเทศเกาหลีใต้ ที่มีความเร็วสูงถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง คล้ายกับชิงกันเซนของญี่ปุ่น ที่ทำให้การเดินทางไปตามเมืองต่างๆหรือจังหวัดไกลๆนั้นสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลงได้เกือบครึ่งหนึ่งของรถไฟแบบปกติ เช่น จากโซลไปปูซานถ้าเป็นรถไฟธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็น KTX จะใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง เป็นต้น แต่ก็ต้องแลกด้วยราคาที่แพงกว่าแบบปกติถึง 2 เท่าเช่นกัน แต่ทางรัฐบาลเกาหลีก็ได้มีการออกตั๋วที่เรียกว่า KR Pass ซึ่งจะเป็นส่วนลดพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น
ในปัจจุบัน(2017) รถไฟด่วน KTX มีให้บริการอยู่ทั้งหมด 4 สาย ซึ่งจะเริ่มต้นจากเมือง Incheon ผ่านโซล ที่สถานีโซล(Seoul Station) และ Yongsan Station จากนั้นก็มุ่งหน้าลงใต้ โดยจะมีสถานีปลายทางที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. สาย Gyeongbu Line – สายสีแดงเป็นสาย KTX แรกๆที่วิ่งยาวตั้งแต่ Incheon ผ่าน โซล ไปจนถึงเมืองปูซาน(Busan) ซึ่งจากรูปเส้นทางการวิ่ง จะเห็นว่ามีปลายทางอยู่ 2 ที่ด้วยกันคือ สถานีปูซาน(Busan Station) และสถานี Pohang และสายที่ไปปูซานยังมีอีก 2 สายที่ผ่านเมือง Gupo กับ เมือง Ulsan อย่างไรก็ตามสายนี้เป็นสายที่รถไฟออกมากที่สุดแทบจะทุกๆ ครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
โดยสายที่ไปปูซานนั้นจะยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบได้อีกตามนี้
1.1 สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 – สายนี้จะเป็นสายที่ใช้เวลา ในการเดินทางเร็วที่สุด, มีรอบรถวิ่งถี่ที่สุด และก็แพงที่สุด ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 37 นาที – 2 ชั่วโมง 44 นาที
ขาไปรถวิ่งตั้งแต่ 05.15-23.00 ,ขากลับ 05.00-22.20 รถขากลับเที่ยวสุดท้ายจะกลับถึงโซลในเวลา 00.59 น ซึ่งในช่วงเวลานั้นรถไฟใต้ดินหมดแล้วอาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่หรือรถบัสรอบดึกในการกลับไปยังที่พักแทน
ค่าโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 59,800 วอน ,เด็กอายุ 4-12 ปี 29,900 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
1.2 สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 – สายนี้จะเป็นสายที่มีเที่ยวรถต่อวันน้อยกว่าสายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 1 และจะใช้เวลาเดินทางนานกว่าเล็กน้อย โดยจะแบ่งเป็นสายย่อยดังนี้
– สายย่อยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 30, 31 ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง สายนี้จะมีรถวิ่งวันละ 6 เที่ยว ขาไปมีเที่ยวรถตั้งแต่ 09.55-20.40
ส่วนขากลับมีเที่ยวรถตั้งแต่ 06.10-20.55
ค่ารถโดยสารชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 53,900 วอน, เด็ก อายุ 4-12 ปี 26,900 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
– สายที่ขึ้นต้นด้วยเลข 35 ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง 10 นาที -3 ชั่วโมง 21 นาที แล้วแต่เที่ยว สายนี้จะมีรถวิ่งวันละ 5 เที่ยวซึ่งเป็นสายที่มีราคาถูกที่สุดแต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางนานที่สุด
ขาไปมีเที่ยวรถตั้งแต่ 08.00 – 18.40 ขากลับ มีเที่ยวรถตั้งแต่ 10.15 – 20.20
ค่าโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด ผู้ใหญ่ 48,800 วอน, เด็กอายุ 4-12 ปี ราคา 24,400 วอน *(ราคาต่อเที่ยว)
2. สาย Honam Line สายสีน้ำเงิน ที่มีสถานีปลายทางที่เมือง Mokpo เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลี
3. สาย Gyeongjeon Line สายสีเหลือง มีสถานีปลายทางที่เมือง Jinju ซึ่งอยู่ติดกับเมืองปูซาน
4. สาย Jeolla Line สายสีม่วง สายสีม่วง มีสถานีปลายทางที่ YeosuExpo
การเช็คตารางเดินรถ และการจองล่วงหน้า
สามารถเข้าไปที่เว็บนี้ได้เลย www.letskorail.com โดยเราสามารถเช็คตารางเวลารถไฟแต่ละเที่ยวได้ หรือจองตั๋ว KTX แบบเป็นเที่ยวๆเลยก็ได้ และยังสามารถใช้จองตั๋ว KR Pass ได้เลยด้วย
ตั๋ว KR Pass
ตั๋ว KR PASS คือ ตั๋วเดินทางแบบเหมาทั้งวันใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งตั๋วสามารถใช้บริการได้กับรถไฟทุกประเภทรวมทั้ง KTX ด้วย แต่ยกเว้นรถไฟใต้ดินตามเมืองต่างๆเท่านั้น ภายในจำนวนวันของตั๋วที่เราซื้อ ซึ่งตั๋วจะหมดอายุเวลา 24.00 ของวันที่กำหนด
เนื่องจากการใช้บริการ รถไฟความเร็วสูง KTX ค่าโดยสารค่อนข้างจะสูง ดังนั้นหากอยากจะประหยัดแนะนำให้ซื้อ KR PASS มาเพื่อใช้ทั้งขาไปและขากลับจะคุ้มกว่า ซึ่งสามารถใช้แทนการซื้อตั๋วแบบเป็นเที่ยวๆสำหรับ ขาไปและขากลับภายใน 1 วันได้เลย เช่น ถ้าเราไปกลับปูซานภายใน 1 วัน เราจะเสียค่าตั๋วประมาณ 110,000 วอน(ขึ้นอยู่กับขบวนที่เราขึ้น) แต่ถ้าซื้อ KR Pass แบบ 1 day pass เราจะจ่ายแค่ 81,000 วอนเท่านั้น ประหยัดไปได้ถึง 3 หมื่นวอนเลยทีเดียว
ประเภทของตั๋ว KR Pass มีให้เลือก ดังนี้
แบบใช้ต่อเนื่องกันตามจำนวนวัน มีให้เลือก 4 แบบ คือ แบบ 2 วัน, แบบ 3 วัน, แบบ 4 วัน และแบบ 5 วัน
ตั๋วแบบ 2 day pass – ผู้ใหญ่ 131,000 วอน, เด็ก 66,000 วอน, แบบประหยัด 121,000 วอน, นักเรียน 105,000 วอน (แบบเลือกวัน)
ตั๋วแบบ 3 day pass – ผู้ใหญ่ 165,000 วอน, เด็ก 83,000 วอน, แบบประหยัด 155,000 วอน, นักเรียน 132,000 วอน (แบบต่อเนื่อง)
ตั๋วแบบ 4 day pass – ผู้ใหญ่ 234,000 วอน, เด็ก 117,000 วอน, แบบประหยัด 224,000 วอน, นักเรียน 187,000วอน วอน (แบบเลือกวัน)
ตั๋วแบบ 5 day pass – ผู้ใหญ่ 244,000 วอน, เด็ก 122,000 วอน, แบบประหยัด 234,000 วอน, นักเรียน 195,000 วอน (แบบต่อเนื่อง)
*** ตั๋วราคาประหยัด คือตั๋วที่จะต้องเดินทางตั้งแต่ 2 ถึง 4 คน จะประหยัดมากกว่าเดินทางคนเดียว
*** หากมีการเดินทางตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ให้ติดต่อซื้อตั๋วในราคา Group ซึ่งจะได้ตั๋วในราคาที่ถูกลงไปอีก
*** ส่วนนักเรียนและนักศึกษา ก่อนเดินทางต้องไปทำบัตรนักเรียนนักศึกษาแบบนานาชาติมาก่อน เช่น บัตร ISIC และต้องมีอายุ 13-25 ปีเท่านั้นจึงจะสามารถจองตั๋วราคานักเรียนได้
***เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี เดินทางฟรี
การใช้งานตั๋ว KR Pass
สรุปแบบเร็วๆก็คือ จองที่หน้าเว็บ -> ไปออกตั๋วจริง -> จะใช้งาน KTX เที่ยวไหนก็ออกตั๋วของเที่ยวนั้นอีกที
1. อันดับแรกคือการเข้าไปจองตั๋ว KR Pass ก่อน โดยไปที่ www.letskorail.com และต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น บัตรเดบิตไม่สามารถใช้ในการจองตั๋วนี้ได้ และหลังจากการจองจะต้องไปออกตั๋วจริงที่เกาหลี ภายใน 180 วันนับจากวันที่จอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ จองตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วันนั่นเอง เมื่อมีการกรอกหมายเลขบัตรเครดิตแล้ว ระบบจะทำการจำหมายเลขไว้ และกันเงินไว้เท่านั้น ไม่มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด สามารถยกเลิกได้เลยทันที ไม่มีค่าปรับอะไรเพิ่มเติม เมื่อจองทางหน้าเว็บไปแล้ว ระบบจะส่ง Email ที่มี E-Ticket มาให้ ก็ให้เราปริ้นออกมาเตรียมเอาไปเกาหลีด้วย
2. เมื่อไปถึงเกาหลี หรือถึงเวลาที่ต้องการใช้ตั๋ว KR Pass ก็ให้นำ E-Ticket, บัตรเครดิต และพาสปอตไปให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการรูดเพื่อชำระเงินตามเค้าเตอร์ที่สถานีรถไฟต่างๆทุกสถานี ที่สนามบินอินชอนก็มี แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะออกเป็นบัตร KR Pass ตัวจริงมาให้เรา ซึ่งบัตรเครดิตจะต้องเป็นของผู้เดินทางคนใดคนหนึ่งเท่านั้น(ไม่มีข้อยกเว้น) หลังจากได้ตั๋ว KR Pass มาแล้ว จะต้องเริ่มใช้งานภายใน 30 วันเท่านั้น
3. หลังจากได้ KR Pass มาแล้ว เวลาจะใช้งาน KTX ก็ให้ไปติดต่อที่เค้าเตอร์เพื่อออกตั๋วซึ่งจะเป็นแบบระบบที่นั่งเท่านั้น ได้เลย ซึ่งในครั้งแรกที่เราออกตั๋ว KR Pass เจ้าหน้าที่อาจจะถาม วันเวลาที่ต้องการใช้เดินทาง พร้อมกับออกตั๋วมาให้เลย
** KR Pass ใช้ได้ถึงเที่ยงคืนของวันที่ระบุในตั๋วเท่านั้น
** KR Pass เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
**KR Pass ใช้ได้เฉพาะที่นั่งชั้นประหยัด ไม่สามารถใช้กับรถไฟใต้ดินหรืออื่นๆได้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถไฟ
– ห้องน้ำ
– แอร์คอนดิชั่น
– ที่นั่งจะเล็กกว่าชินคันเซนของญี่ปุ่นนิดหน่อย
– ตู้เสบียงที่ขายอาหารขนมน้ำดื่ม
– เครื่องกดขนมและน้ำดื่ม