วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้เที่ยวที่เกาหลี พรุ่งนี้บินกลับไฟท์ประมาณ 11 โมง ก็คงจะไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนก่อน วันนี้เลยต้องเก็บตกที่ๆอยากไปแล้วยังไม่ได้ไปนั่งเอง เช้านี้พอตื่นแล้วก็ออกจากโรงแรมเลย มาโซลหลายวันแล้วก็ยังไม่ได้แวะไปเก็บภาพที่ประตูเมืองเลย ดูแผนที่แล้วก็เหมือนจะเป็นทางผ่านก่อนที่จะไปเที่ยวพระราชวังถ็อกซูกุง ( deoksugung palace )
เช้านี้ไม่ได้ขึ้นรถไฟใต้ดิน เราเดินชมเมืองไปเรื่อยๆจากเมียงดงเดินไปประมาณ 20 นาทีก็เดินมาถึงประตูเมืองนัมแดมุน เป็นประตูขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสี่แยก สามารถเดินข้ามถนนเข้าไปบริเวณด้านหน้าประตูได้ จริงๆแล้วน่าจะมาช่วงบ่าย เพราะช่วงเช้าที่ไปเที่ยวนั้นดูเหมือนจะย้อนแสง ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
จากนั้นก็เดินต่อไปยังพระราชวัง ระหว่างทางก็ผ่านตลาดนัมแดมุน เป็นตลาดที่รวบรวมสินค้านานาชนิดมีทั้งขายส่งขายปลีก เป็นตลาดที่ใหญ่มากมีประมาณ 10 กว่าตึกด้วยกัน เราเดินผ่านกันเฉยๆไม่ได้แวะช้อปปิ้งเพราะเดี๋ยวจะเที่ยวไม่ทัน
ดูจากแผนที่แล้วก็จะเห็นว่าใหญ่มากจริงๆ
มาถึงแล้วพระราชวังถ็อกซูกุง ( deoksugung palace ) ถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถใต้ดินมาลงที่สถานี City Hall ได้ เพราะทางเข้าพระราชวังก็จะอยู่ตรงสถานีนี้เลย พระราชวังนี้เปิดให้เข้าชมประมาณ 9 โมงเช้า ตอนที่ไปถึงก็เกือบจะถึงเวลาเปิดแล้ว เลยยืนรอแป๊ปนึงก็ได้เข้า ระหว่างรอก็ถ่ายรูปกับพี่ทหารเกาหลีกันไปก่อน
พระราชวังนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ชื่อ “ถ็อกซูกุง” แปลว่าพระราชวังแห่งอายุยืนยาวและมั่นคง และด้านในพระราชวังนอกจากจะมีอาคารเก่าแบบเกาหลีแล้วก็ยังมีอาคารสไตล์ยุโรปอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมกัน
ตึกนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ด้านในพระราชวัง ถ้าต้องการชมด้านในเขาจะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ ไม่สามารถเดินดูตามลำพังได้ ต้องมีไกด์นำทัวร์เข้าไปชมแต่ละห้อง เนื่องจากใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง เราก็เลยไม่ได้เข้าไปดู
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นสวนสไตล์ยุโรป
ยืนถ่ายรูปที่สวนกันอยู่ซักพัก ระหว่างนั้นก็มีขนวนทหารเกาหลี ตั้งแถวเดินขบวนออกมาจากด้านใน เดินไปยังด้านหน้าทางเข้าพระราชวัง
เราก็เดินตามขบวนทหารออกมาถ่ายรูปกับพี่ทหารด้านหน้าพระราชวัง เสร็จแล้วก็ขึ้นไปพักดื่มชาพร้อมกับชมวิวพระราชวังในมุมสูงกันซะหน่อย ร้านกาแฟอยู่ที่ หอชมวิวจองดง ตั้งอยู่บนชั้นที่ 13 ของอาคารศาลากลางกรุงโซล(Seoul City Hall Seosomun building) จากร้านกาแฟถ่ายมองออกมาก็จะเห็นวิวแบบในรูปนี้เลย เห็นต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีอยู่รอบๆพระราชวัง
แล้วก็ข้ามมาขึ้นรถใต้ดินที่สถานี City Hall เพื่อไปยัง หมู่บ้านบุกชอนฮันอก จริงๆแล้วหมู่บ้านโบราณนี้จะอยู่ใกล้กับพระราชวังเคียงบกกุงที่เราไปมาเมื่อวันก่อน แต่วันก่อนเรามีเวลาเที่ยวไม่พอก็เลยข้ามหมู่บ้านนี้ไป เลยมาเก็บตกเอาวันสุดท้ายก่อนกลับนั่นเอง
ร้านกาแฟแนวๆระหว่างทางเดินไปหมู่บ้านบุคชอนฮันอก
เดินขึ้นเนินมาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีหลงบ้างแต่ก็ถามทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึง สองข้างทางนี้บางหลังก็ยังมีคนที่อาศัยอยู่จริงๆ ดังนั้นจึงไม่ควรส่งเสียงดังโวยวายเพราะจะรบกวนคนในบ้านได้
ที่ด้านบนของเส้นไฮไลท์ของหมู่บ้านจะมีอาสาสมัครใส่เสื้อสีแดงในรูป คอยยืนอธิบายและแจกแผนที่เดินเที่ยวหมู่บ้านบุคชอนอยู่ และบอกจุดถ่ายรูปต่างๆภายในหมู่บ้าน สามารถเข้าไปขอแผนที่กับน้องๆเขาได้
วิวที่ถ่ายจากหมู่บ้านซึ่งอยู่บนเนินสูง ทำให้มองเห็นมุมกว้าง ใบไม้ตรงนี้เปลี่ยนสีค่อนข้างเยอะแล้ว เห็นเป็นสีแดง เหลือง ส้ม สลับกันเต็มไปหมด
แวะชิมขนมซะหน่อย เป็นแป้งทอดที่ด้านในเป็นไส้น้ำตาลทราย
จากนั้นก็หาข้าวเที่ยวกิน วันนี้กินเกี๊ยวกันดีกว่า มีเกี๊ยวอยู่หลายแบบมากก็เลยสั่งแบบ Mix ชุดใหญ่มากินเลย ได้เกี๊ยวครบทุกแบบ
เกี๊ยวแต่ละชิ้นขนาดค่อนข้างใหญ่ มีทั้งแบบทอด เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวไส้หมู่ ไส้กิมจิก็มี แล้วก็มีลูกกลมๆคล้ายลูกชิ้น อาจจะสั่งเยอะไปพอกินไปได้ซักพักก็เริ่มเลี่ยน รสชาติเฉยๆไม่ได้อร่อยมาก
จุดหมายต่อไปคือ พระราชวังชางด๊อกกุง Changdeokgung Palace อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านบุคชอนฮันอก พระราชวังที่สร้างหลังจากพระราชวังเคียงบกกุง และเคยเป็นพระราชวังหลักของกษัตริย์หลายพระองค์ของราชวงศ์โชซอนด้วย
อาคารหลักของที่นี่จะมีการใช้สีในการตกแต่งหลากหลาย เช่น สีแดง สีเขียว แต่เมื่อเดินไปยังโซนอาคารด้านขวามือของพระราชวัง ก็จะมีอาคารเป็นใช้เพียงสีขาวดำเท่านั้น ไม่มีการใช้สีสันมาตกแต่งอาคาร เน้นความเรียบง่าย
มีครอบครัวชาวเกาหลีใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปครอบครัวกันด้วย
หลังจากออกมาจากพระราชวังก็เดินเล่นชมเมืองกันไปเรื่อยๆ มีร้านขายของริมถนนเยอะแยะไปหมด อันนี้เป็นร้านขายเกาลัค
แวะเที่ยวตลาด Kwang Jang Market ด้านในตลาดจะแบ่งเป็นหลายโซน มีทั้งขายเสื้อผ้าของใช้ และก็มีโซนที่ขายอาหารท้องถิ่นด้วย
เสื้อผ้าที่ขายตรงโซนนี้จะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า มือของทั้งหมด
มาถึงโซนที่ขายอาหารกันแล้ว แต่ละร้านจะเป็นแผงลอยเล็กๆ ของกินแต่ละร้านก็จะคล้ายๆกัน มีโต๊ะและเก้าอี้วางไว้ให้คนมาสั่งแล้วนั่งกินหน้าร้านเลย
ออกจากตลาดก็เดินเรียบคลองน้ำซึ่งเป็นคลองเดียวกันกับที่เราไปมาเมื่อวานนั่นเอง คลองชองกเยชอน ฝั่งตรงข้างที่เห็นเป็นตึกยาวๆนั่นก็คือตลาดขายเสื้อผ้า Pyounghwa ซึ่งเป็นตลาดขายเสื้อผ้าแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโซล
ทางเข้าตลาดดูคึกคักแม้จะเย็นแล้วก็ตาม ด้านในตลาดก็จะคล้ายกับแถวประตูน้ำ แพลตินั่ม และโบ๊เบ๊บ้านเรานั่งเอง มีขายเสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า เสื้อกันหนาว รองเท้า เรียกได้ว่ามีครบทุกรูปแบบเลย ดูจากความยาวของตึกแล้วเดินเป็นอาทิตย์ก็น่าจะยังเดินไม่ครบแน่ๆ
และก็เดินเรื่อยๆจนมาถึงประตูทงแดมุน ขึ้นไปเดินเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินที่กำแพงเมืองกันระหว่างรอไฟเปิดที่ประตู พอมืดแล้วประตูเปิดไฟก็เดินลงมาถ่ายรูปประตูกันเลย
ประตูทงแดมุนก็จะคล้ายๆกันนัมแดมุนที่เราไปเมื่อเช้านี้นั่นแหล่ะ ซึ่งจะอยู่เหมือนเป็นเกาะกลางถนน ดังนั้นถ้าจะถ่ายรูปประตูแบบเก็บภาพทั้งหมดก็ต้องถ่ายจากรอบๆประตูนั่นเอง
จบทริปของวันด้วยการเดินเล่นต่อไปยัง Dongdaemun History & Culture Park ซึ่งอยู่ถัดจากประตูทงแดมุนไปนิดเดียว อาคารรูปทรงแปลกตา ด้านในเป็นที่แสดงงานศิลปะ