รีวิวเที่ยวพระราชวังเคียงบกกุง เดินช้อปปิ้งย่านชิคๆ และชมวิว 360 ที่ N Seoul Tower
วันนี้ตื่นแต่เช้า มาเที่ยวพระราชวังวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ถ้าใครไปโซลแล้วเรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวยอดฮิตห้ามพลาดเลย นั่งรถไฟใต้ดินสายสีส้มมาลงที่สถานี Gyeongbokgung สถานีนี้จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้ามากที่สุด พอขึ้นมาจากสถานีแล้วเดินตรงมาอีกนิดนึงก็เห็นทางเข้าวังเลย
แค่ทางเข้าก็ดูยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ตอนที่ไปเข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่แน่ใจว่าเป็นวันหยุดพิเศษอะไรรึป่าว เพราะปกติจะมีค่าเข้าชมคนละประมาณ 3,000 วอน
มาแต่เช้า นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะมาก แต่ก็ดูเหมือนจะเยอะกว่าทุกที่ที่ไปเที่ยวมา วันนี้ฟ้าเปิดไม่มีเมฆซักก้อนเลย อากาศดีมาก แต่ก็หนาวมากเหมือนกัน อุณหภูมิตอนเช้าๆนี่เลขตัวเดียวเลย
ในพระราชวังก็จะมีอาคารต่างๆ อย่างห้องนี้เป็นห้องรับประทานอาหาร เขาก็มีการจัดชุดอาหารจำลองไว้ให้ดูว่าในสมัยก่อนทานอาหารกันยังไง
กำแพงที่ไว้กั้นแต่ละโซนของวัง ที่โซลใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีเท่าไหร่ แต่ก็มีบางต้นที่เหลืองแล้ว
รูปปั้นหิน 12 นักษัตรแต่งชุดเกาหลีโบราณ ใครเกิดปีอะไรก็มักจะนิยมไปถ่ายรูปกันรูปปั้นปีเกิดของตัวเอง
เจดีย์นี้อยู่ด้านบนของพิพิธภัณฑ์ ถ้าใครอยากเข้าไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ก็สามารถซื้อตั๋วเข้าชมเพิ่มได้
เด็กๆเกาหลีมาทัศนศึกษากันเต็มไปหมด มีคุณครูพี่เลื้ยงคอยดูแลแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ แล้วก็เดินเที่ยวไปทีละจุด
ถ้าข้างอาคารพิพิธภัณฑ์จะมีบ้านเรือนร้านค้าตกแต่งเหมือนบ้านโบราณที่บรรยากาศเก่าๆของเกาหลีมาไว้ให้ชมกัน อันนี้เป็นร้านอาหารสมัยก่อน ข้าวของเครื่องใช้จัดวางไว้แบบสมจริงเลย
ร้านขายหนังสือการ์ตูน
เด็กๆกำลังสนใจภาพโปสเตอร์หนังและการ์ตูนเรื่องต่างๆ
พอเดินเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเจอศาลากลางน้ำ ไม่สามารถเดินข้ามสะพานเข้าไป แต่สามารถถ่ายรูปรอบๆได้ ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเลย ตอนที่ไปลมค่อนข้างแรง น้ำเลยไม่นิ่ง ถ้าน้ำนิ่งจะถ่ายรูปออกมาให้เงาของศาลาสะท้อนกับผิวน้ำเลย
ต้นเมเปิ้ลริมสระน้ำ เป็นสีส้มเกือบทั้งต้นแล้ว
หลังจากเที่ยวพระราชวังเสร็จก็เดินออกทางออกด้านข้างของพระราชวัง จะเป็นถนนช้อปปิ้งมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆยาวตลอดเส้นทางเลย
บางร้านก็เอาตัวการ์ตูนมาตกแต่งหน้าร้าน
ร้านนี้เป็นร้านกาแฟแบบ Outdoor เห็นสาวๆเกาหลีก็มานั่งจิบกาแฟไปคุยกันไป
ร้านนี้ขายของฝากจุ๊กจิ๊กๆ
เกาหลีขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้ากันอยู่แล้ว ไม่เฉพาะแต่เสื้อผ้าผู้ใหญ่แต่เสื้อผ้าเด็กก็ดีไซน์สวยไม่แพ้กัน
บางร้านก็คนแน่นเลย
ร้านอาหารบ้างที่ก็ตกแต่งแบบเกาหลีโบราณ น่ารักดี
เดินมาเรื่อยๆก็ชักจะเมื่อย เลยแวะกินขนมกันหน่อย ร้านนี้ขายขนมถั่วแดงต้ม
บรรยากาศภายในร้าน แต่งแบบเรียบๆโทนสีอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่ในบ้าน
สั่งขนมกันเลย
วันนี้กินบิงซูชาเชียวถั่วแดง ส่วนถ้วยขวามือคือถั่วแดงต้ม รสชาติไม่หวานมากนัก อร่อยดีเหมือนกัน
กินเสร็จก็เดินกันต่อ แวะช้อปปิ้งกันไปเรื่อยๆ คนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ
เดินเล่นตรงนี้กันเกือบเย็นก็นั่งรถไฟใต้ดินไปกันที่ N-Seoul Tower ต่อเลย เดี๋ยวดูพระอาทิตย์ตกไม่ทัน หอคอยชื่อดังของโซลตั้งอยู่บนเขา เราต้องไปขึ้นกระเช้า Cable car กันก่อนเพื่อขึ้นไปยังฐานด้านบนของหอคอย จากกระเช้าก็มองเห็นวิวเมืองโซล ต้นไม้บนเขาเปลี่ยนสีแล้วด้วย วิวสวยมาก
ออกจาก Cable car ก็เจอกับกุญแจคล้องรักกันเลย หนุ่มๆสาวๆคู่รักมักจะนิยมมาคล้องกุญแจกันที่หอคอยแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าถ้าได้คล้องกุญแจคู่กันก็จะรักกันตลอดไป เดินถ่ายรูปดูวิวอยู่แถวๆนั้นจนเริ่มมืด หอคอย N-Seoul Tower ก็เปิดไฟพอดี
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปยังด้านบนของหอคอย รูปด้านล่างคือถ่ายจากด้านบนหอคอยนั่นเอง เป็นที่เดินชมวิวแบบ 360 องศา และก็จะมีขายของที่ระลึกด้านบนด้วย
พอลงมาก็เก็บภาพด้านล่างอีกนิดหน่อย แล้วก็นั่งกระเช้ากลับลงมาด้านล่าง แล้วจบโปรแกรมของวันนี้ด้วยการไปทานข้าวเย็นและเดินช้อปปิ้งที่เมียงดงกันจนดึก