อัพเดท 15 ที่เที่ยวเกาหลีครบทุกฟีล ชิลล์ทุกที่ แฮปปี้แบบอันลิมิทชัวร์ๆ
เพราะเกาหลีใต้ยังคงเป็นหนึ่งประเทศที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหลายเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นจุดหมายซึ่งเดินทางง่าย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย และมีสถานที่เก๋ๆ เอาไว้ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอินลงโซเชียลกันแบบอัพเดทตลอดเวลา เรียกว่าไปทุกปีก็มีที่ใหม่ๆ ให้ได้เที่ยวกันแบบไม่มีซ้ำ ในขณะที่จุดไฮไลท์หลักทั้งหลายก็ได้รับการปรับปรุงให้อยากไปแล้วไปอีกตลอดเวลา วันนี้เราเลยรวบรวม 15 ที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ทั้งใหม่และเก่าในเกาหลีใต้ ที่เชื่อได้เลยว่าน่าจะโดนใจทุกกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้เกาหลีใต้ทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ดูจบแล้วก็เริ่มแพลนทริปกันได้เลยจ้า สตาร์ทด้วยการมองหาตั๋วเครื่องบินราคาโดนใจในเว็บ Traveloka กันก่อนได้เลย ตั๋วราคาดีแถมการันตีเลยว่าใช้ได้ชัวร์ ไม่ต้องกลัวเจอของปลอม จองก็ง่าย ไม่ต้องใช้เวลานาน มีปัญหาข้อสงสัยก็ยังติดต่อผ่าน Call Center ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดเลยด้วยนะ ตั๋วราคาดี แถมเซอร์วิสกันขนาดนี้ ไม่ใช้ไม่ได้แล้วละ พูดเลย!
จองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีกับ Traveloka ได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Seoul.ICN/1
15 ที่เที่ยวในเกาหลีใต้ได้ครบทุกฟีล
1. Haneul Park
เรียกว่าเป็นสวนสาธารณะที่มาแรงมากในช่วงปีหลังๆ มานี้ โดยไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่บริเวณทุ่งหญ้าสีน้ำตาลทองกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา สวนนี้กินพื้นที่ทั้งหมดกว่า 190,000 ตารางเมตร ซึ่งจะพีคที่สุดในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยในช่วงนั้นจะมีการประดับไฟในตอนกลางคืนให้ได้ชมกันอีกด้วยนะ แต่ในช่วงฤดูอื่นๆ ที่นี่ก็ยังมีทิวทัศน์สวยงามแตกต่างกันออกไป เรียกว่าเที่ยวได้ในทุกฤดูเลยละ การมาเที่ยวสวนนี้ต้องมีการออกกำลังแข้งขากันด้วยการขึ้นบันไดเกือบ 300 ขั้นก่อนนะ แต่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาอย่างแน่นอน
2. Bukchon Hanok Village
หมู่บ้านโบราณใจกลางกรุงโซลแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่คนมาเกาหลีควรได้เห็น พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยบ้านของสมาชิกราชวงศ์และขุนนางในยุคโบราณ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งแบ่งออกเป็นซอกเล็กซอยน้อยยุบยิบมากมาย อายุอานามของบ้านโบราณแถวนี้ก็ปาเข้าไปร่วม 600 กว่าปีเข้าไปแล้ว ถ้าอยากมาเดินเล่นให้ได้ฟีลแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แนะนำให้หาเช่าชุดฮันบกมาใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันไปเลย แถวนี้มีให้เช่าหลายร้านเลยละ ลองดู
3. Anyang Art Park
บอกตรงนี้เลยว่า นี่คือสวนศิลปะซึ่งใครที่อยากได้รูปโปรไฟล์ในสไตล์ฮิปๆ ชิคสุด คูลสุด ต้องมา! เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแปลกตาซึ่งกลายเป็นจุดถ่ายรูปชั้นดีกว่า 25 จุดเลยเชียวนะ แถมยังเดินทางง่ายและอยู่ไม่ไกลมากจากใจกลางกรุงโซล และด้วยพื้นที่กว้างขวางซึ่งมีการจัดวางสารพัดงานอาร์ตในรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยกระจายตัวอยู่ในโซนต่างๆ ดังนั้น ถ้าจะมาที่นี่ แนะนำให้เผื่อเวลาเอาไว้เลยอย่างน้อยๆ ครึ่งวัน มาทั้งทีต้องเก็บให้ครบทั้งหมดนะ รับรองว่าจะมีรูปลงโซเชียลไปอีกเป็นปีแน่นอน
4. Gamcheon Culture Village
จากโซลข้ามมาปูซานกันบ้างดีกว่า เพราะนี่คือเมืองใหญ่อันดับสองรองจากเมืองหลวงที่มีความสะดวกสบายไม่แพ้กัน และถ้ามาปูซานเมื่อไหร่ หากพลาดที่นี่ไปก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงกันเลยทีเดียว หมู่บ้านแห่งนี้พลิกผันตัวเองจากแหล่งเสื่อมโทรมมาเป็นไฮไลท์ในการท่องเที่ยวด้วยการใช้ศิลปะสมัยใหม่ที่หลากหลาย แต่งแต้มสีสันและความน่าสนใจให้ที่นี่ยืนหนึ่งเป็นไฮไลท์ในการมาเยือนปูซานได้ตลอดมา จนได้ฉายาว่าเป็นซานโตรินีแห่งเกาหลีกันเลยทีเดียว มาปูซานทั้งทีต้องมีที่นี่อยู่ในลิสต์นะ อย่าลืม!
5. Gyeonghwa Station
แม้ว่าเวลาที่เอ่ยถึงซากุระ มั่นใจว่าร้อยทั้งร้อยคนต้องคิดถึงญี่ปุ่นก่อนเป็นประเทศแรก ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่อยากจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่าซากุระของแดนโสมน่ะเค้าก็งามแจ่มไม่แพ้ใครนะ และนี่คือหนึ่งจุดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้เลยเชียว เพราะเป็นอุโมงค์ซากุระความยาว 800 เมตร ที่ขึ้นเรียงรายเป็นแถวอยู่สองฝั่งของทางรถไฟ ซึ่งเส้นทางนี้ปิดให้บริการไปแล้วหลายปี แต่จะมีกรณีพิเศษที่นำรถไฟออกมาวิ่งแค่เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival สวยขนาดนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ตรงนี้กลายเป็นฉากในซีรี่ย์และภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง มาเถอะน่า แล้วคุณจะรู้ว่าซากุระเกาหลีก็ดีงามไม่แพ้ใครเลยจริงๆ
6. Namiseom Island
หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับท็อปลิสต์ และเรียกได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์อมตะนิรันดร์กาลที่ต้องมาเช็คอินกันทุกคนเมื่อมาเยือนเกาหลี ต้องยกให้กับเกาะนามิแห่งนี้แบบไม่มีการหลุดโผ เพราะทั้งเดินทางง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังมีธรรมชาติและมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน เดินเล่น พายเรือ เที่ยวสวนสัตว์ นั่งชิลล์ในคาเฟ่ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจริงๆ แล้วที่นี่มีวิวสวยๆ ให้ได้เสพกันในทุกฤดู แต่ช่วงพีคที่ถือว่าเป็นไฮไลท์คงต้องยกให้กับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้นไม้ทั้งเกาะจะเต็มไปด้วยสีสันละลานตา ถ้ามาช่วงนั้นรับรองว่าฟินชัวร์!
7. Hallasan National Park
เกาะเชจูนับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ในการมาเที่ยวเกาหลี โดยเฉพาะสำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติต้องบอกว่าห้ามพลาดที่นี่เลย ยิ่งใครที่เป็นสายเทรกกิ้ง ชอบการเดินเที่ยวภูเขาในบรรยากาศสบายๆ ที่นี่ถูกใจคุณแน่นอน อุทยานแห่งนี้เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของเกาะเชจู และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วเรียบร้อย ด้วยทิวทัศน์ที่แปลกตา และด้วยเส้นทางการเดินที่ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
8. Cheonggyecheon
อีกหนึ่งสถานที่ในบรรยากาศสบายๆ ที่อยู่ใจกลางกรุงโซล คงต้องยกให้กับคลองสายเล็กๆ ที่มีความยาว 11 กิโลเมตรแห่งนี้ เพราะนี่คือคลองเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี ที่เดิมทีเป็นคูคลองเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้สะอาดสะอ้านอะไร แต่ได้รับการปรุงแต่งรูปโฉมในภายหลังจนโด่งดังในเรื่องความใสสะอาดของสายน้ำ รวมทั้งความงดงามในการออกแบบภูมิทัศน์โดยรอบ คลองนี้แบ่งออกเป็นหลายบรรยากาศ ทั้งแบบธรรมชาติและที่ให้อารมณ์ทันสมัย มีสะพานข้ามคลอง 20 แห่งที่ดีไซน์ในรูปแบบแตกต่างกันไป รวมถึงยังมีการจัดแสดงชิ้นงานและเทศกาลสวยๆ ในบริเวณนี้หมุนเวียนกันไปอยู่บ่อยๆ ตลอดทั้งปี ชิลล์ สบาย สวย ฟรี มาเกาหลีทั้งทีควรต้องมา
9. Yangju Nari Park
เป็นอีกหนึ่งสวนที่ต้องถูกใจทั้งสายธรรมชาติ และคนที่รักการถ่ายรูปโพสต์โชว์ในโซเชียลอย่างแน่นอน เพราะในสวนนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปแบบมุ้งมิ้งก็ได้ ฮิปก็ดีกันอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้ามูลี่ย์สีชมพูที่ถ่ายรูปออกมาสวยไม่ซ้ำใครและถือเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่ แต่หากมาในช่วงที่มูลี่ย์ไม่พีคก็ไม่ต้องเสียใจไปนะ เพราะยังมีทั้งดาวกระจาย บานไม่รู้โรย และพุ่มโคเชียสีเขียวที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้มในช่วงก่อนหน้าหนาว ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้ได้แวะชมแวะแชะกันไปตลอดทั้งปี ใครอยากได้รูปสวยๆ วิวแจ่มๆ ต้องมาที่นี่เลย
10. Tongin Market
เพราะสิ่งหนึ่งที่ทำให้การมาเยือนเกาหลีสนุกเหลือเกิน ต้องยกให้กับการกิน! โดยเฉพาะสายสตรีทฟู้ดทั้งหลาย บอกได้เลยว่าเกาหลีใต้คือสวรรค์! และนี่คือหนึ่งในแหล่งของกินที่น่าแวะมาเยือนไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ซึ่งมีสารพัดอาหารให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมกันมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์คงต้องยกให้กับ Dosirak ซึ่งเป็นอาหารกล่องแบบใส่ถาด ซึ่งต้องนำเงินไปแลกเหรียญแบบโบราณเพื่อใช้ในการซื้ออาหาร อารมณ์เหมือนการแลกคูปองในฟู้ดคอร์ดนั่นละ อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารเกาหลีสไตล์ดั้งเดิมแบบท้องถิ่น กินจบก็มาเดินช้อปหาของติดไม้ติดมือในบริเวณอื่นของตลาดกันต่อได้เลย อิ่มด้วย สนุกด้วย ควรต้องมา
11. Dongdaemun Design Plaza Rose Garden
ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงโซล ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งใจให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม โดยที่นี่อยู่ใกล้กับแหล่งเช็คอินยอดฮิตอย่างตลาดทงแดมุน ซึ่งนักท่องเที่ยวเกือบทุกคนต้องแวะไปจับจ่ายซื้อหาข้าวของกัน โดยบริเวณลานกว้างแห่งนี้มีการนำดอกกุหลาบ LED มาเนรมิตเอาไว้ให้กลายเป็นทุ่งดอกไม้เรืองแสงในยามค่ำคืนมากกว่า 25,000 ดอก! สวยมาก โรแมนติกด้วย แล้วเรื่องอะไรจะยอมพลาดกันล่ะ จริงมั้ย?
12. Suncheon Bay
ใครเป็นคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ แนะนำว่าไม่ควรพลาดที่นี่ เพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ระบบนิเวศน์ขนาดใหญ่ในจังหวัดชอลลานัม โดยมีทั้งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพืชและสัตว์ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำแถบนี้ และยังมีอาคารที่เป็นจุดชมวิว รวมถึงร้านขายของที่ระลึกอีกมากมาย แต่ไฮไลท์ในการมาที่นี่ต้องยกให้กับทางเดินไม้ที่พาดผ่านไปกลางพื้นที่ชุ่มน้ำของจริงซึ่งอยู่รอบๆ โดยระหว่างทางจะมีความสวยของทิวทัศน์ธรรมชาติอันหลากหลายแปลกตา ทั้งต้นกก ต้นหญ้า สัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย ใครชอบถ่ายรูป รับรองได้ว่าเพลิน
13. Gyeongbokgung Palace
มาเกาหลีใต้ทั้งที ถ้ายังไม่ได้มาเยือนพระราชวังแห่งนี้ ก็คงเหมือนขาดอะไรไป เพราะนี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญในกรุงโซล พระราชวังแห่งนี้นับเป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้ แม้จะเหลืออาคารเพียงแค่สิบกว่าหลังในปัจจุบัน จากทั้งหมด 200 อาคารในสมัยก่อน แต่ที่นี่ก็ยังมีมุมเด็ดๆ มากมายที่ควรค่าแก่การมาเห็นด้วยตาตัวเอง นอกจากพระราชวัง ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติให้ได้เข้าชมกันอีกด้วยนะ ยิ่งถ้าได้ใส่ชุดฮันบกสวยๆ มาแชะรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยละก็ บอกเลยว่ามันใช่จริงๆ
14. Myeongdong
หนึ่งในกิจกรรมที่มาเกาหลีแล้วต้องทำ คงต้องยกให้กับการช้อปปิ้งกันแน่นอน เพราะข้าวของเครื่องใช้ที่นี่ก็มีสารพัดสารพัน แถมราคาก็ไม่ได้ถือว่าแพงมากขนาดจับต้องไม่ได้ เสื้อผ้าและไอเท็มส์แฟชั่นทั้งหลายก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ที่บ้านเรา และแน่นอนว่าแหล่งช้อปปิ้งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเกาหลี คงต้องมีชื่อย่านเมียงดงแห่งนี้รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีทุกอย่างที่ทุกคนต้องการ จนมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาเยือนย่านนี้กันนับล้านคนในหนึ่งวัน นอกจากนั้น ยังมีสตรีทฟู้ดแบบเกาหลีให้ได้เดินเลาะชิมกันไปตลอดทาง กินไป ช้อปไป ไม่เพลินได้ยังไงล่ะคุณ!
15. Noryangjin Fish Market
สำหรับสายกิน โดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ซีฟู้ดทั้งหลาย เกาหลีใต้นับเป็นสวรรค์อีกหนึ่งแห่งจริงๆ เพราะซีฟู้ดทุกประเภทที่ขายกันในประเทศนี้นั้น มั่นใจได้ในเรื่องของความสดใหม่อย่างแน่นอน ซึ่งเมนูต่างๆ อาจหาชิมได้ในตลาดปลาซึ่งมีอยู่หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นคือตลาดนอยางจินแห่งนี้นี่เอง ที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่ที่เติบโตมาจากตลาดเล็กๆ ในอดีต จนกลายมาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ และทีเด็ดคือเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีทั้งรูปแบบการขายส่งและขายปลีก ถ้ามาเกาหลีใต้แล้วอยากได้ความฟินในการกินเมนูอาหารทะเลสดๆ ที่นี่ก็มีบริการปรุงเมนูต่างๆ ให้ สด ใหม่ สะใจ แถมราคายังไม่เกินกำลัง ถ้ามีเวลาก็อยากให้แวะมาลองชิมกันดู
เกาหลีใต้ยังเป็นประเทศที่เที่ยวได้แบบเพลินๆ ตลอดเวลา และความน่าทึ่งคือประเทศนี้ยังมีการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไว้ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะชอบกิน ชอบลุย ชอบช้อป ชอบสวนสนุก ชอบธรรมชาติ ชอบความทันสมัย ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งตอบโจทย์ของทุกคนได้แบบครบครัน ถ้ายังไม่เคยมาขอให้ปักหมุดประเทศนี้กันเอาไว้ แต่ถ้าใครเคยมาแล้ว เชื่อว่าเกาหลีใต้นั้นมาครั้งเดียวไม่ได้จริงๆ หรือคุณว่าไง?